ศิลปะบำบัด
ศิลปะบำบัด (Art Therapy) เป็นศาสตร์เฉพาะทางที่มุ่งเน้นกระบวนการเยียวยา บำบัดรักษา ผู้ที่ขาดความสมดุลตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ โดยนักศิลปะบำบัด ที่ผ่านการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบ และมีมาตราฐานอย่างในประเทศเยอรมัน จุดกำเนิดหนึ่งในศิลปะบำบัดแนวทางมนุษยปรัชญา (Anthroposophy) ได้มีการเรียนการสอนในการผลิตนักศิลปะบำบัด (Art Therapist) ที่ได้รับการรับรองคุณภาพจากองค์กร BVAKT (Berufeverbände für Anthroposophische Kunsttherapie in Deutschland) ซึ่งความคิดและหลักปรัชญาในการทำงานศิลปะบำบัดนี้ได้ถูกสั่งสมมาเกือบ 100 ปี (ค.ศ. 1921–ปัจจุบัน)โดยนักปรัชญา-นักฟิสิกส์นาม ดร. รูดอล์ฟ สไตเนอร์ (Dr. Rudolf Steiner : ค.ศ. 1861–1925) ซึ่งไม่ได้แบ่งแยกศาสตร์ต่างๆ ออกเป็นส่วน ๆ แต่ยังเผยให้โลกล่วงรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างศิลปะกับจิตวิญญาณของมนุษย์ โดยเฉพาะเรื่องสีนั้น สไตเนอร์ได้พูดถึงสีที่มีผลต่อสภาพจิตใจ (See and Sense) จากการค้นคว้าทางวิชาการและเรียบเรียงผลงานทฤษฎีสีของเกอเธ่ (Goethe, Colour Theory) อีกทั้ง สไตเนอร์ยังได้เชื่อมโยงองค์ความรู้ ทั้งการแพทย์องค์รวม การพัฒนาการของเด็ก การศึกษาที่มีชีวิต การบำบัด ฯลฯ ให้เป็นองค์ความรู้ที่เกี่ยวเนื่องกัน
สำหรับประเทศไทยได้มีการใช้แนวทางศิลปะบำบัดในแนวมนุษยปรัชญาในหลากหลายมิติ
มาตั้งแต่ พ.ศ. 2547 – ปัจจุบัน โดยมีการศึกษาค้นคว้าด้านศิลปะบำบัดแนวมนุษยปรัชญาอย่างจริงจัง
และเผยเพร่ไปยังส่วนต่างๆ ดังนี้ ศิลปะบำบัดในโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์,
ศิลปะบำบัดในโรงพยาบาลมนารมย์, ศิลปะบำบัดในโรงเรียนอนุบาลบ้านรัก,
ศิลปะบำบัดสำหรับผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์, ศิลปะบำบัดสำหรับเยาวชนที่อยู่ในความดูแลของโรงพยาบาลตุลาการ เป็นต้น
ซึ่งความรู้และความเข้าใจของศิลปะบำบัดในแนวทางนี้มีความน่าสนใจหลายประการต่อนักศิลปะบำบัดในหลากหลายแนวทาง
ตั้งแต่ครูการศึกษาพิเศษ
ตลอดจนผู้ใฝ่ใจศาสตร์ที่เชื่อมโยงระหว่างศิลปะและจิตวิญญาณด้านใน
การเริ่มต้นของศิลปะบำบัด
ศิลปะบำบัดในทางมนุษยปรัชญา เริ่มต้นขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่
20 จากแนวคิดมนุษยปรัชญา ( Anthroposophy ) ถูกคิดค้นโดย ดร.รูดอร์ฟ สไตเนอร์ นักคิด
นักปรัชญา นักฟิสิกข์ ชาวเยอรมัน
ซึ่งให้ความหมายการทำงานเชิงบำบัดไว้อย่างละเอียดลึกซึ้งถึงการนำศิลปะแขนงต่างๆ
มาช่วยให้มนุษย์เกิดความสมดุลทั้งร่างกาย จิตใจและจิตวิญญาณ
โดยมีนักศิลปะบำบัดที่ร่ำเรียนและฝึกฝนเป็นผู้ทำการบำบัด
กระบวนการทำงานของเรา
การศึกษาศิลปะและศิลปะบำบัดในมนุษยปรัชญา
มุ่งเน้นที่กระบวนการ (Process) ไม่ว่าจะเป็นการวาดภาพ การปั้น ดนตรี การเคลื่อนไหว ฯลฯ
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ศิลปะบำบัดมิได้ต้องการความสำเร็จรูปของแนวทางการบำบัด
นักศิลปะบำบัดควรวินิจฉัยและสังเคราะห์บทเรียนให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
การวาดภาพระบายสีเพื่อการบำบัดก็เช่นกัน ล้วนมีลำดับขั้นตอนต่อการทำงานดังนี้
·
ศึกษาประวัติเด็กจากแพทย์อย่างละเอียด
ศึกษาคำวินิจฉัยและข้อมูลอื่น ๆ จากแพทย์
·
ศึกษาข้อมูลจากคอบครัว
การพบกันครั้งแรกของนักบำบัดกับพ่อแม่จะได้มาซึ่งข้อมูลของเด็ก
นับตั้งแต่ขณะตั้งครรภ์, พัฒนาการในวัยเด็ก, นิสัย, การเจ็บป่วยในปัจจุบัน, การนอนของเด็ก,
การรับประทานอาหาร, การปฏิสัมพันธ์กับสังคมและเพื่อนรอบข้าง,
ความถนัดซ้าย-ขวา, การเจ็บป่วยนั้นส่งผลต่อเด็กและผู้คนในบ้านอย่างไร
·
ศึกษาข้อมูลจากครูประจำชั้น, แพทย์ประจำโรงเรียน
·
ศึกษาข้อมูลจากเด็ก
โดยใช้เวลาทั้งหมด 3 ครั้งแรก ทั้งนี้ให้เด็กได้ทำงานศิลปะ ได้แก่
- การวาดภาพลายเส้น (Drawing)
- การวาดภาพสีน้ำบนกระดาษเปียก (Painting wet on wet)
- การปั้นดิน (Modeling)
- การวาดภาพสีน้ำบนกระดาษเปียก (Painting wet on wet)
- การปั้นดิน (Modeling)
·
เมื่อมาถึงขั้นตอนนี้
นักศิลปะบำบัดได้เห็นเด็ก สภาวะภายในของเด็กที่สะท้อนออกมาจากผลงานศิลปะทั้ง
3 ครั้ง
จึงสามารถเลือกหัวข้อและทิศทางในการวาดภาพระบายสีเพื่อการบำบัดต่อไปได้อย่างถูกต้อง
คุณประโยชน์
ในการทำงานศิลปะบำบัดกับผู้ที่ขาดความสมดุลเป็นการมองการเยียวยาอย่างเป็นองค์รวม
ทั้งความคิด ความรู้สึก และเจตจำนง
ในปัจจุบันปัญหาของโรคภัยไข้เจ็บหลายโรคมีสาเหตุมาจากจิตใจมากกว่าร่างกาย
ดังนั้น แพทย์ตามแนวมนุษยปรัชญาจึงใช้ศิลปะบำบัดร่วมในการรักษาด้วย
กระทั่งสามารถกล่าวได้ว่า
ศิลปะบำบัดหมายถึงการฟื้นชีวิตอีกครั้งจากภายในหรือปรับดุลยภาพในด้านต่าง ๆ ดังนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น